สืบเนื่องจากกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของภาคประชาชนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเน้นหนักในเรื่อง Nostalgia Tourism ที่กำลังได้รับความนิยม โดยจะเห็นได้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายจากการพัฒนาสถานที่อันมีเรื่องราวอันน่าสนใจไม่ว่าในเชิงประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม หรือวิถีชีวิต
Nostalgia Tourism ทำให้เมืองเก่ากลับมามีชีวิตชีวา เป็นการสนับสนุนวัฒนธรรมการโหยหาอดีตที่เป็นลักษณะเฉพาะโดดเด่นมากของสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียทั้งหลายเอื้อต่อการเผยแพร่ภาพเหล่านั้นให้เพื่อนฝูงได้เห็นกันอย่างรวดเร็วจึงยิ่งทำให้ Nostalgia Tourism ได้รับความ นิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การผสานอดีตให้หลอมรวมกับปัจจุบันจึงเป็นเทรนด์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์จึงจำเป็นต้องเดินควบคู่ไปกับความรู้ในเชิงอนุรักษ์ในหลายมิติ มิติที่หนึ่งคือการซ่อมแซมปรับปรุงอาคารเก่าเพื่อให้คงสภาพใกล้เคียงกับของเดิมเพื่ออนุรักษ์ไว้ตามประโยชน์ใช้สอยดังเดิม (อนุรักษ์เพื่อซ่อมและรักษา) มิติที่สองคือการปรับปรุงอาคารเก่าให้สามารถใช้สอยแบบใหม่ เป็นการขยายขอบเขตการใช้สอยที่ต่างจากเดิม เช่นพัฒนามาเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร โฮสเทล ร้านค้า co-working space ฯลฯ (อนุรักษ์เพื่อปรับปรุงและเพิ่มการใช้สอย) และมิติที่สามคือการสร้างอาคารใหม่เลียนแบบอาคารเก่า (อนุรักษ์ในเชิงสร้างใหม่โดยเลียนแบบอาคารเก่า) ซึ่งต้องใช้วัสดุและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่หลากหลายเพื่อสนองในทุกมิติการอนุรักษ์
นอกจากนี้ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทย ทำให้ภาคเอกชนมีการปรับกลยุทธ์โดยเน้นชะลอการสร้างโครงการใหม่ แต่หันมาปรับปรุงอาคารเก่าที่มีอยู่เดิม ซึ่งปรากฏการณ์นี้ก็เห็นได้ชัดในภาคธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการปรับปรุงอาคารเดิมก็จำเป็นต้องอาศัยความรู้ในบริบทเชิงอนุรักษ์เช่นกัน
“แนวโน้มการปรับปรุงอาคารเก่า เปลี่ยนฟังก์ชั่นเพื่อรองรับการใช้งานใหม่ๆ มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เจ้าของธุรกิจหลายคนกำลังมองหาวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในงานอนุรักษ์ รวมถึง สถาปนิก มัณฑนากร ผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญงานบูรณะอาคาร ซึ่งในงานสถาปนิก’64 “มองเก่า ให้ใหม่ : Refocus Heritage” เราได้รวบรวมองค์ความรู้ด้านการบูรณะอาคาร การซ่อมแซมอาคารเก่า และวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในงานอนุรักษ์มาไว้ในที่นี่ที่เดียว แนวคิดการจัดงานสถาปนิกครั้งนี้ สอดคล้องกับสถานการณ์และเทรนด์การทำธุรกิจในปัจจุบัน คาดว่าผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารจะมาชมงานสถาปนิกครั้งนี้กันอย่างคับคั่งแน่นอน” ดร. วสุ โปษยะนันทน์ ประธานการจัดงานสถาปนิก’64 กล่าว
“นอกจากจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างมากมายจากผู้แสดงสินค้าถึง 850 แบรนด์จากทั่วโลกแล้ว ภายในงานสถาปนิก’ 64 ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมาย เช่น เสวนาโดยนักธุรกิจ นักลงทุน ที่จะมาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์การสร้างธุรกิจจากแนวคิด “มองเก่าให้ใหม่” เพื่อจุดประกายความคิดให้กับผู้ร่วมชมงาน นอกจากนี้เรายังมี ‘หมอบ้านอาษา’ ที่บริการให้คำปรึกษาปัญหาการออกแบบและก่อสร้างโดยสถาปนิก วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพ โดยจะมีสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์อาคารมาให้คำปรึกษาด้วย” ดร. วสุ โปษยะนันทน์ ประธานการจัดงานสถาปนิก’64 กล่าวเสริม
สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูถัมภ์ และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ผู้จัดงานสถาปนิก’64 มั่นใจว่าแนวคิดการจัดงานครั้งนี้ จะตอบรับกับแนวโน้มความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของงาน ทั้งในส่วนของภาคธุรกิจ สถาปนิก รวมถึงประชาชนทั่วไป เจ้าของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ ที่ต้องการหาไอเดียด้านการออกแบบและวัสดุก่อสร้างเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจรับกระแสดังกล่าว
งานสถาปนิก'64 "มองเก่า ให้ใหม่: Refocus Heritage" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-27 มิถุนายนนี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
#สถาปนิก64 #มองเก่าให้ใหม่ #architect21 #RefocusHeritage