สมาคมสถาปนิกสยามฯ และบริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แถลงเปิดตัวงานสถาปนิก ’61 (Architect Expo 2018) “Beyond Ordinary : ไม่ธรรมดา”
ชูแนวคิดการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมพื้นถิ่นในวิถีชีวิตร่วมสมัยของสังคมไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2561 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “งานสถาปนิก เป็นงานจัดแสดงด้านสถาปัตยกรรม วัสดุและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ริเริ่มโดย สมาคมสถาปนิกสยามฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 การจัดงานครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 32 โดยแต่ละปีมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 350,000 คน และมีผู้ให้ความสนใจมากขึ้นทุกปี วัตถุประสงค์หลักเพื่อแสดงศักยภาพและนำเสนอผลงานความก้าวหน้าทางสถาปัตยกรรมในทุกสาขาวิชาชีพ การจัดแสดงสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้าง วัสดุผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับงานสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน และภูมิสถาปัตยกรรม งานสถาปนิก ’61 ประกอบไปด้วยนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย การอบรมสัมมนาระดับนานาชาติ ตลอดจนบริการต่างๆ ที่ทางสมาคมสถาปนิกสยามฯ ได้เตรียมไว้ให้กับสมาชิกและประชาชนทั่วไป
การจัดงานสถาปนิกในแต่ละปีที่ผ่านมา คณะกรรมการมีการกำหนดแนวคิดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมุ่งสร้างวิสัยทัศน์ให้กับบุคคลากรในวิชาชีพสถาปนิกเท่าทันความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก เทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ โดยในปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “Vernacular Living” บทบาทและความเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรมและงานออกแบบพื้นถิ่นในวิถีชีวิตร่วมสมัยของสังคมไทย เชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้วิชาชีพสถาปนิก และวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมชมงานที่จะจัดขึ้น”
ในงานแถลงข่าว ผศ.ดร.อภิรดี เกษมศุข ประธานจัดงานสถาปนิก ’61 ได้กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานในปีนี้ “แนวคิดของการจัดงานปีนี้ คือ Vernacular Living ภายใต้ชื่องาน “Beyond Ordinary: ไม่ธรรมดา” โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและงานออกแบบพื้นถิ่นในวิถีชีวิตร่วมสมัยของสังคมไทย
ปัจจุบันสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นต่างๆ กำลังถูกท้าทายด้วยปรากฏการณ์โลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงจากสังคมชนบทไปสู่สังคมเมือง ซึ่งงานสถาปนิก ’61 ‘ไม่ธรรมดา’ สนใจถึงกระบวนการที่สถาปัตยกรรมพื้นถิ่นตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ในรูปแบบของนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน”
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ทางสมาคมสถาปนิกสยามฯ เปิดพื้นที่ให้กลุ่มสถาปนิก, นักออกแบบ, ช่างฝีมือ ผู้มีความรู้ความสามารถหลากหลายเจเนอเรชั่น ร่วมกันตั้งคำถามและตีความสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นในวิถีชีวิตร่วมสมัย ผ่านการออกแบบพาวิเลียนหลักทั้ง 5 ได้แก่ Living Space Pavilion, Working Space Pavilion, Meeting Space Pavilion, Moving System Pavilion และ Introduction Pavilion นอกจากนี้ยังมีพาวิเลียนอื่นๆ ที่ออกแบบโดยสถาปนิกและดีไซเนอร์ชั้นนำของเมืองไทย รวมกว่า 18 พาวิเลียน ไฮไลต์ของการจัดงานครั้งนี้ จึงประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ ‘งานออกแบบพาวิเลียน’ และ ‘เนื้อหา’ ของนิทรรศการที่จัดแสดงภายใต้แนวคิด Vernacular Living ซึ่งพาวิเลียนนิทรรศการหลักทั้ง 5 ประกอบไปด้วย
1. Living Space Pavilion นิทรรศการแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเรือนพื้นถิ่นจากสมัยบุพกาล สมัยพัฒนา และร่วมสมัย ชี้ให้เห็นว่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแบบการผลิตเป็นจำนวนมากนั้นไม่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยที่แท้จริง นิทรรศการถูกจัดแสดงผ่านภาพถ่ายและการออกแบบแสง และโครงร่างจำลองแม่เตาไฟ พาวิเลียนออกแบบโดย คุณบุญเลิศ เหมวิจิตรพันธ์ จาก Boon Design
2. Working Space Pavilion นิทรรศการแสดงการเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่ประกอบอาชีพ จากอดีตที่เคยซ้อนทับไปกับพื้นที่อยู่อาศัย แล้วถูกแยกออกจากกันในยุคอุตสาหกรรม จนกระทั่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ทําให้การใช้พื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวสามารถกลับมารวมกันอีกครั้ง จัดแสดงผ่านการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ผสมการแสดงมัลติมีเดีย พาวิเลียนออกแบบโดย คุณจริยาวดี เลขะวัฒนา และ Mr.Luke Yeung จากบริษัท ARCHITECTKIDD
3. Meeting Space Pavilion นิทรรศการที่ว่าด้วยการซ้อนทับของกิจกรรมทางสังคมบนพื้นที่สาธารณะ และสเปซ บนโลกออนไลน์ ตั้งคําถามถึงปฏิสัมพันธ์ของพื้นที่ทางกายภาพในโลกจริง และโลกเสมือนจริง (AR) นั้นจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร และจะทําให้บทบาทพื้นที่สาธารณะของเมืองเปลี่ยนไปอย่างไร ความน่าสนใจอยู่ที่นิทรรศการนี้จะแสดงผ่านเกมบนแอพพลิเคชั่น พาวิเลียนออกแบบโดยคุณสุริยะ อัมพันศิริรัตน์ จากบริษัท Walllasia 4. Moving System Pavilion นิทรรศการนําเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับระบบการเดินทางและขนส่ง ตั้งคำถามต่อ กระบวนการสร้างสรรค์ระบบขนส่งท้องถิ่นอย่าง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อ เรือด่วน รถสองแถว รถพุ่มพวง ฯลฯ การพัฒนาระบบขนส่งด้วยเทคโนโลยีสื่อสารใหม่ๆ ใช้ระบบออนไลน์เป็นตัวช่วยเพิ่มระดับการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ และการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เมือง/ย่านต่างๆ พาวิเลียนสร้างจากไม้โดยประยุกต์ใช้โครงสร้างไร้ตะปู ออกแบบโดย ศ.ดร.วีระ อินพันทัง และคุณพิช โปษยานนท์
5. Introduction Pavilion นิทรรศการจัดแสดงภาพรวมแนวคิดการจัดงานครั้งนี้ชูบทบาทและความสำคัญของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น เรื่องราวของผู้วางรากฐานการศึกษาสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่สําคัญของประเทศ โครงสร้างพาวิเลียนก่อสร้างด้วยระบบ pneumatic ที่รูปทรงแปรเปลี่ยนไปตลอดเวลาตามสภาวะแวดล้อม สะท้อนเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่สร้างขึ้นโดยปราศจากสถาปนิก ออกแบบโดยคุณสาวิตรี ไพศาลวัฒนา และ Mr. Jakub Gardolinski จาก บริษัท PAGAA ร่วมกับคุณเมธัส ศรีสุชาติ จากบริษัท MAGLA
นอกจากนี้ งานสถาปนิก ’61 ยังมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับกิจกรรมสันทนาการอีกมากมาย อาทิ เวิร์กช็อป ให้ความรู้ภาคปฏิบัติ, เวทีกลาง พื้นที่สาธารณะสำหรับพักผ่อน ให้ผู้ชมงานได้เพลิดเพลินกับการแสดงและกิจกรรมน่าสนใจที่หมุนเวียนไปตลอดการจัดงาน, ASA Sketch พื้นที่จัดกิจกรรมสำหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจในการวาดเขียน, หมอบ้านอาษา บริการให้คําปรึกษาการออกแบบและก่อสร้างงานสถาปัตยกรรมให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยทีมงานสถาปนิกจิตอาสา และกิจกรรมประกวดงานออกแบบระดับนานาชาติ ASA International Design Competition 2018 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด VEX: Agitated Vernacular การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่ท้าทายนิยามความเป็นพื้นถิ่นแบบเดิมๆ ในส่วนของกิจกรรมด้านวิชาการที่เป็นไฮไลต์ของงานสถาปนิก ’61 คือ ASA Forum 2018 งานสัมมนาวิชาการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยปีนี้มีสถาปนิกระดับโลกมาร่วมบรรยายบนเวที อาทิ ฮาน ทูมาเทคิน (Han Tümertekin) สถาปนิกจากประเทศตุรกี และโฆเซ มาเรีย ซานเช การ์เชีย (José María Sánchez García) สถาปนิกจากประเทศสเปน เป็นต้น
ด้านนายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดงานในปีนี้ เผยว่า “งานสถาปนิก ’61 ยังคงเป็นงานที่จัดแสดงนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ในอาเซียน และได้รับความสนใจจากผู้แสดงสินค้าและผู้สนใจเข้าชมทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้จะมีการจัดพาวิเลียนแสดงนวัตกรรมก่อสร้างจากผู้แสดงสินค้าจาก IMAG GmbH บริษัทในเครือ Messe Munchen ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้จัดงานสถาปนิกระดับโลก BAU งานแสดงสถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์ และระบบก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นบริษัทที่จัดแสดงนวัตกรรมก่อสร้างมาแล้วทั่วโลก จึงเป็นโอกาสที่นักออกแบบทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนรวมถึงผู้เข้าร่วมชมงานจะได้สัมผัสเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ก่อสร้างระดับสูงภายในงานครั้งนี้
พร้อมกับการแสดงผลงานนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่มีความหลากหลายจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน อเมริกา เวียดนาม ฯลฯ โดยปัจจุบันมีบริษัทที่ตอบรับเข้าแสดงผลงานแล้วกว่า 800 แห่ง บนพื้นที่กว่า 75,000 ตารางเมตร คาดว่ามูลค่าการซื้อขายภายในงานและต่อเนื่องจากงานจะมีมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาท
“การขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีสัญญาณบวกอย่างชัดเจน เพราะอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นจากการลงทุนภาครัฐในปีนี้ น่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในแวดวงก่อสร้างได้รับงานตามการขยายของการบริโภคที่ดีขึ้น จากทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นงานสถาปนิก ’61 เป็นจึงเป็นอีกหนึ่งงานซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดดัชนีทางเศรษฐกิจ โดยเชื่อมั่นว่างานปีนี้จะได้รับการตอบรับและมีผลงานด้านนวัตกรรมการก่อสร้างมาเข้าร่วมงานอย่างหลากหลาย มีการนำเอาสุดยอดผลงานการออกแบบนวัตกรรมก่อสร้างจากยุโรปและอเมริกามานำเสนอให้ผู้เข้าชมงานได้เลือกผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ดีที่สุด งานสถาปนิก ’61 จึงเป็นอีกงานนึงที่ไม่ควรพลาด”